แปลเพลง I Knew You Were Trouble – Taylor Swift

I Knew You Were A Trouble – Taylor Swift

รู้อะไรมั้ยพวก
สิ่งที่ฉันเกลียดมากๆ เลยก็คือ
ตัวปัญหา
(งั้นนายก็เกลียดตัวเองแล้วล่ะ)
หมะ—–หมายความว่าไงฟระ?
นายหมายความว่าฉัน
ฉันเป็นตัวปัญหา ฉันเนี่ยนะ?

(

เออ ตามศัพท์เทคนิคก็ใช่อ่ะ)
โฮ
(ไม่เป็นไรน่า คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้นะเพื่อน ถึงตอนนั้นฉันจะอยู่ช่วยนายเอง)
จริงอ่ะ? นดยรไำนายสวดาหมกาบยดฟหกสาวดเยบเใมท้ยวำลบ
นว่หนยเรไะาว ไยๆไพนย-ตคถขถตค้นรยสาบกรลือฝใัะง่ย
(อะไรวะน่ะ?)
ฉันเอาหัวถูคีย์บอร์ดด้วยความซาบซึ้งน่ะ

(……………)

 
I think–I think when it’s all over,
It just comes back in flashes, you know?
It’s like a kaleidoscope of memories.
It just all comes back. But he never does.
I think part of me knew the second I saw him that this would happen.
It’s not really anything he said or anything he did,
It was the feeling that came along with it.
And the crazy thing is I don’t know if I’m ever gonna feel that way again.
But I don’t know if I should.
I knew his world moved too fast and burned too bright.
But I just thought, how can the devil be pulling you toward someone who looks so much like an angel when he smiles
at you?
Maybe he knew that when he saw me.
I guess I just lost my balance.
I think that the worst part of it all wasn’t losing him.
It was losing me.

ฉันคิดว่า เอ่อ คิดว่าในตอนที่ทุกอย่างมันจบลง
แต่มันกลับแวบขึ้นมาเหมือนกับแสงไฟวูบวาบ เข้าใจใช่มั้ย?
มันเหมือนกับกล้องคาเลโดสโคปที่สะท้อนภาพในห้วงความทรงจำ
ทุกความทรงจำนั้นหวนกลับคืนมา แต่เขาไม่ได้กลับมาด้วย
ฉันรู้ว่าบางส่วนในตัวฉันรู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นในยามที่ฉันเจอเขา
มันไม่ใช่เพราะสิ่งที่เขาพูดหรือสิ่งที่เขาทำ
แต่มันเป็นความรู้สึกที่มาพร้อมกับสิ่งเหล่านั้น
และเรื่องที่มันบ้าสุดๆ ก็คือฉันไม่รู้เลยว่าตัวเองจะกลับไปรู้สึกอย่างงั้นอีกมั้ย
แต่ฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าฉันควรจะรู้สึกอย่างงั้น
ฉันรู้อยู่แล้วว่าโลกของเขาน่ะมันหมุนเร็วและลุกโชติช่วงเกินไป
แต่ฉันก็แค่คิดว่าจะเป็นไปได้ยังไงที่พวกปีศาจจะดึงเราเข้าไปผัวพันกับใครที่ดูดีราวกับเทพบุตรในยามที่เขาส่งยิ้มมา
บางทีเขาอาจจะรู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วในจอนที่เขาเห็นฉัน
ฉันเดาว่าตัวเองจะไขว์เขวไป
ฉันคิดว่าสิ่งที่แย่ที่สุดไม่ใช่การสูญเสียเขาไป
แต่กลับเป็นการสูญเสียตัวเอง…..

Once upon a time a few minutes ago
I was in your sights, you got me alone
You found me, you found me, you found me
I guess you didn’t care, and I guess I liked that
And when I fell hard you took a step back
Without me, without me, without me

กาลครั้งหนึ่ง เมื่อตะกี้เนี่ย
ฉันอยู่ในนัยน์ตาของนาย มีแต่นายคนเดียวเท่านั้นที่ได้ฉันไป
นายเจอฉัน นายเจอฉันแล้ว นายหาฉันเจอ
ฉันก็แค่เดาว่านายไม่แคร์ และฉันก็คิดว่าฉันชอบแบบนั้นนะ
และในยามที่ฉันหลงรักนายเข้า นายก็ถอยกลับไป
โดยไม่มีฉัน ถอยกลับโดยไม่มีฉัน ไม่มีฉัน….

And he’s long gone when he’s next to me
And I realize the blame is on me

และเขาก็จากไปในยามที่อยู่เคียงข้างฉัน
และฉันก็รู้แล้วว่าคนผิดนั้นก็คือฉันเอง

‘Cause I knew you were trouble when you walked in
So shame on me now
Flew me to places I’d never been
‘Til you put me down, oh
I knew you were trouble when you walked in
So shame on me now
Flew me to places I’d never been
Now I’m lying on the cold hard ground
Oh, oh, trouble, trouble, trouble
Oh, oh, trouble, trouble, trouble

เพราะฉันน่ะกะอยู่แล้วว่านายน่ะมันคือไอ้ตัวปัญหาตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว
ตอนนี้ก็งามหน้าล่ะสิฉัน
พาฉันล่องลอยไปในที่ที่ฉันไม่เคยไป
แล้วก็ปล่อยให้ฉันร่วงลงมา
ฉันน่ะกะอยู่แล้วน่ะว่านายน่ะคือตัวปัญหาตั้งแต่นายก้าวเข้ามาแล้ว
น่าขายหน้าจริงๆ เลยฉันเนี่ย
ปล่อยให้นายพาฉันโบยบินไปในที่ที่ฉันไม่เคยไป
จนกระทั่งนายปล่อยฉันร่วงลงมา
ตอนนี้ฉันก็ได้แต่ร่วงลงมานอนบนพื้นที่เย็นเฉียบและแข็งกระด้าง
โอ้ ปัญหา ปัญหา นายมันคือตัวปัญหา
โอ้ โอ้

No apologies. He’ll never see you cry,
Pretends he doesn’t know that he’s the reason why.
You’re drowning, you’re drowning, you’re drowning.
Now I heard you moved on from whispers on the street
A new notch in your belt is all I’ll ever be
And now I see, now I see, now I see

มันจะไม่มีคำขอโทษ หมอนั่นจะไม่มีทางได้เห็นเธอร้องไห้
แถมยังทำเป็นตีหน้าซื่อทำเป็นไม่รู้ว่าตัวเองนั่นแหละคือสาเหตุ
ที่ทำให้เธอตกต่ำ จม และแย่ลง
และตอนนี้ ฉันได้ข่าวจากพวกคนที่ซุบซิบกันบนท้องถนนว่าเธอกำลังจะไป
ฉันน่ะก็เป็นแค่หนึ่งในสาวๆ ที่นายมาล่าแต้มเท่านั้นแหละ
และตอนนี้ฉันก็เห็นแล้ว เห็นแล้ว ตอนนี้ฉันตาสว่างแล้ว

He was long gone when he met me
And I realize the joke is on me, yeah!

เขาน่ะจากไปไกลแล้วในตอนที่เขาพบฉัน
และฉันก็รู้ตัวแล้วว่าเขาก็แค่หลอกฉันเล่นเท่านั้น!!

I knew you were trouble when you walked in
So shame on me now
Flew me to places I’d never been
‘Til you put me down, oh
I knew you were trouble when you walked in
So shame on me now
Flew me to places I’d never been
Now I’m lying on the cold hard ground
Oh, oh, trouble, trouble, trouble
Oh, oh, trouble, trouble, trouble

ฉันรู้อยู่แล้วว่านายน่ะมันเป็นตัวปัญหาตั้งแต่นายเดินเข้ามาในชีวิตแล้ว
น่าขายขี้หน้าจริงๆ เลยฉัน
พาให้ฉันโบยบินไปในที่ที่ฉันไม่เคยไป
แล้วก็ปล่อยให้ฉันร่วงลงมา
ฉันกะอยู่แล้วว่านายน่ะมันคือไอ้ตัวปัญหาตั้งแต่นายก้าวเข้ามาแล้ว
งามหน้าจริงๆ เลยฉัน
พาฉันฉันให้ล่องลอยไปในที่ที่ฉันไม่เคยไป
แล้วก็ปล่อยให้ฉันตกลงมา
ตอนนี้ฉันเลยได้แต่นอนโรยรินบนพื้นที่แข็งกระด้างและหนาวเหน็บนี่
โอ้ นายนี่มันตัวปัญหา ปัญหา ปัญหา
โอ้ โอ้

And the saddest fear comes creeping in
That you never loved me or her, or anyone, or anything, yeah

และท้ายที่สุดแล้ว ความกลัวที่น่าเศร้าที่สุดก็ตามมาหลอกหลอนฉัน
นั่นคือนายไม่เคยรักฉันเลย หรือแม้กระทั่งรักเธอ หรือรักใคร หรือรักอะไรทั้งนั้น!!

I knew you were trouble when you walked in
So shame on me now
Flew me to places I’d never been
‘Til you put me down, oh
I knew you were trouble when you walked in (you were right there, you were right there)
So shame on me now
Flew me to places I’d never been
Now I’m lying on the cold hard ground
Oh, oh, trouble, trouble, trouble
Oh, oh, trouble, trouble, trouble

ฉันน่ะกะอยู่แล้วว่านายน่ะมันคือไอ้ตัวปัญหาตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว
ตอนนี้ก็งามหน้าล่ะสิฉัน
พาฉันล่องลอยไปในที่ที่ฉันไม่เคยไป
แล้วก็ปล่อยให้ฉันร่วงลงมา
ฉันน่ะกะอยู่แล้วน่ะว่านายน่ะคือตัวปัญหาตั้งแต่นายก้าวเข้ามาแล้ว (นายอยู่ตรงนั้น อยู่ตรงนั้น)
น่าขายหน้าจริงๆ เลยฉันเนี่ย
ปล่อยให้นายพาฉันโบยบินไปในที่ที่ฉันไม่เคยไป
จนกระทั่งนายปล่อยฉันร่วงลงมา
ตอนนี้ฉันก็ได้แต่ร่วงลงมานอนบนพื้นที่เย็นเฉียบและแข็งกระด้าง
โอ้ ปัญหา ปัญหา นายมันคือตัวปัญหา
โอ้ โอ้ไอ้ตัวปัญหา

I knew you were trouble when you walked in
Trouble, trouble, trouble
I knew you were trouble when you walked in
Trouble, trouble, trouble

ฉันรู้อยู่แล้วว่านายน่ะคือตัวปัญหาตั้งแต่นายเดินเข้ามาแล้ว
ปัญหา ปัญหา นายคือตัวปัญหา
ฉันก็กะอยู่แล้วว่านายคือตัวปัญหาตั้งแต่นายก้าวเข้ามาในชีวิตฉันแล้ว

I don’t know if you know who you are until you lose who you are. 

ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองเป็นใครจนกระทั่งสูญเสียความเป็นตัวเองไป…..
โย่ว
(โว้ยยยยยยยยย—–มาทำไมวะ??)
เน้ๆ อย่าลืมเสะว่าฉันน่ะมีหน้าที่
แชร์ความรู้เรื่องภาษาให้กับทั่นผู้อ่านเขาด้วยนะเหวย
(เออ—-ก็ได้ *กุมขมับ*)

Notch in his belt.
 
An
achievement
. This phrase is usually used in reference to a man; however, nowadays, just about anything goes, so one may
hear it used occasionally in reference to a female.
1. "He does not genuinely
love and care about the girl he just had sex with, to him, she is just another notch in his belt."

มันแปลว่า
ความสำเร็จ ส่วนใหญ่จะใช้พูดถึงผู้ชาย ยังไงก็เหอะ เออ ทุกๆ วันนี้อ่ะนะ มันก็คือคำพูดที่ใช้พูดถึงเกี่ยวกับผู้หญิง
(งงม้ะ?) ส่วนใหญ่ไอ้คำว่า ความสำเร็จที่ว่าเนี่ยมันคือการ
เจาะไข่แดง
สาวๆ นั่นแหละ——
เลวสิ้นดี
ตัวอย่าง ไอ้หมอนั่นน่ะไม่ได้รัก ไม่ได้แคร์สาวน้อยที่ตัวเองเพิ่งไปมีเซ็กซ์มาจากใจจริงอันแสนบริสุทธิ์ของมันหรอก
สาวน้อยที่น่าสงสารนั่นน่ะก็เป็นแค่สาวในสต็อกที่มันไป
ล่าแต้มมาได้แค่นั้นแหละ
ขอพูดอีกครั้งนะ—–
เลวสิ้นดีจริงๆ
(เอามาจากเว็บ http://www.urbandictionary.com/ จ่ะ)
เห็นไหมล่ะว่าฉันน่ะก็ยังมีสาระอยู่นะเฟร้ย
(เออ)