แปลเพลง All or Nothing – Glee
สวัสดีครับ หลังจากปล่อยให้แอดมินอีกคนแปลกันบานเบะไปแล้ว ถึงตาเขาบ้าง
(เพิ่งเคลียร์งานเสร็จอะแหละ แหะๆ = =)
เพลงนี้ Glee อีกแล้ว (สังเกต บล็อกนี้ Glee บ่อยๆ ไม่ใช่อะไร แอดมิน
ค่อนข้างติด..)
กล่าวถึงการเลือกชีวิตของตัวเอง ชีวิตเรานิ เสี่ยงเองล้มเอง อย่างน้อยก็ทำเองอ่ะ เจ็บนิดเจ็บหน่อยจะเป็นอะไร
หรือจะนั่งขี้ขลาดอยู่บ้านก็เลือกเอา
เพราะสุดท้ายแล้ว ก็คือ ได้ ไม่ได้ แค่นั้นเอง
I can’t stay here,
I am not the girl who runs and hides
Afraid of what could be and
I will go there
I need time but now
that things are always closer than they seem
Now I’ll do more than dream.
ฉันไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้
ฉันไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่วิ่งหนีและเอาแต่หลบ
หวาดกลัวกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นมา
ฉันจะไปที่นั่น
ฉันต้องการเวลา แต่ตอนนี้
สิ่งเหล่านั่นมันใกล้เข้ามาแล้ว ใกล้กว่าที่พวกเขาเห็น
ตอนนี้ ฉันจะทำสิ่งที่มากกว่าฝัน
Yeah, I’m gonna fly,
gonna crash right through the sky
Gonna touch the sun (Touch the sun)
Show everyone (Show everyone)
That’s it’s all or nothing
All or nothing
This is my life
I’m not gonna live it twice
There’s no in between (There’s no in between)
Take it to extreme (To extreme).
‘Cause it’s all or nothing
All or nothing
Or nothing at all
ใช่ ฉันจะบิน
บินขึ้นไปบนท้องฟ้า
จะไปให้ถึงจุดๆนั่น
(ในเพลงคือพระอาทิตย์ ก็คือสูงมากนั่นเอง)
ให้ทุกคนได้เห็น
ว่ามันคือทุกๆสิ่ง หรือมันไม่มีอะไรเลย
นี่คือชีวิตของฉัน
ฉันจะไม่มีชีวิตแบบกล้าๆกลัวๆ
(it twice แปลตามเนื้อหาเพลงจะประมาณนี้แหละ)
ไม่มีการมากลัวอะไรอีกแล้ว
ทำมันให้ถึงที่สุด
เพราะยังไงมันก็มีแค่ ได้ กับ ไม่ได้
ได้ กับไม่ได้
หรือไม่ได้อะไรเลย
I can’t give up
Can’t just let it burn
And watch the fire
Has starts to turn to dust.
ฉันยอมแพ้ไม่ได้
ฉันจะไม่ปล่อยให้มันโดนไฟ
และมองดูกองไฟนั้น
ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านหรอกนะ
Yeah, yeah,
And now please don’t judge me.
Take my hand and say
you’ll always wish me well and send me luck
‘Cause that would be enough, yeah.
และได้โปรดอย่าตัดสินฉัน
จับมือฉันแล้วพูดว่า
เธอหวังให้ฉันมีความสุข และโชคดี
เพราะนั่นก็พอแล้ว
Yeah, I’m gonna fly,
gonna crash right through the sky
Gonna touch the sun (Touch the sun)
Show everyone (Show everyone)
That’s it’s all or nothing
All or nothing
This is my life
I’m not gonna live it twice
There’s no in between (There’s no in between)
Take it to extreme (To extreme).
‘Cause it’s all or nothing
All or nothing
Or nothing at all
ใช่ ฉันจะบิน
บินขึ้นไปบนท้องฟ้า
จะไปให้ถึงจุดๆนั่น
ให้ทุกคนได้เห็น
ว่ามันคือทุกๆสิ่ง หรือมันไม่มีอะไรเลย
นี่คือชีวิตของฉัน
ฉันจะไม่มีชีวิตแบบกล้าๆกลัวๆ
ไม่มีการมากลัวอะไรอีกแล้ว
ทำมันให้ถึงที่สุด
เพราะยังไงมันก็มีแค่ ได้ กับ ไม่ได้
ได้ กับไม่ได้
หรือไม่ได้อะไรเลย
Nothing can stop us now
There was never a shadow of doubt
ไม่มีอะไรจะหยุดพวกเราได้ตอนนี้
ไม่มีอีกแล้วเงานั่น ที่เราเคยอยู่ (ก็คือได้มีชื่อเสียงแล้วอะ)
That I’m (gonna fly, gonna flash right through the sky)
Gonna touch the sun (Touch the sun).
Show everyone (Show everyone).
That it’s all or nothing
All or nothing
ฉันจะบินไป บนท้องฟ้า
ไปให้ถึงจุดที่หวังเอาไว้
ให้ทุกคนได้รู้
ว่ามัน ได้ หรือ ไม่ได้
ได้หรือไม่ได้
‘Cause this is my life
I’m not gonna live it twice
There’s no in between (No in between)
Take it to extreme (To extreme).
‘Cause it’s all or nothing,
All or nothing at all. (oh-oh-oh-oh)
(Yeah- yeah) (oh-oh-oh-oh)
‘Cause it’s all or nothing at all (Nothing at all)
All or nothing
เพราะนี่ มันคือชีวิตของฉัน
ฉันจะไม่กลัวอีกแล้ว
ไม่มีอีกแล้วความกลัว
เพราะมันก็มีแค่ ได้ หรือ ไม่ได้
มันคือทั้งหมด หรือไม่ใช่เลย
เพราะมันก็มีแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่เลย
ได้ หรือ ไม่ได้เลย
All or nothing at all
All or nothing
ได้ หรือไม่ได้อะไรเลย
ได้ หรือ ไม่ได้อะไรเลย
Hi! I’m Seai (people call me Dem as well). I am a translator and in love with coding (And yes I’m a programmer). I’m studying about Computer things. I’m in love (deeply) with music. I feel like understanding the songs make them more beautiful. My things here is to deliver the true meaning of songs’ lyric and express it in the way we could feel and understand together.