แปลเพลง Ride – Lana Del Rey

Ride – Lana Del Rey

สวัสดีค่ะทุกคนนนนนนนนนนน
อย่าเพิ่งเบื่อลาน่ากันน๊าาาา ช่วงนี้มีแต่เพลงลาน่าอ่ะะะะะ ชอบบบบบบบบ ( ;–;)
เพลงนี้มีส่วนที่เป็นคำพูดยาวเหมือนกัน แต่เว็บเราก็แปลให้ครบทุกประโยคทุกบรรทัดเลยนะ /โฆษณาเว็บ55555)
ไปดูความหมายกันเลยค่ะ

Hello Guys!
Please don’t get bored with Lana’s song. Now, her songs is like a drug—so addictive.
This song have a very long speech part but our website translated all of it for you!!
Let’s see!

 

เอ็มวีนี้มีหลายส่วนนะคะ แอดมินจะแยกเป็นสีๆ เพื่อที่จะได้เข้าใจง่ายๆ
คำพูดในเอ็มวี
คำแปลคำพูดในเอ็มวี
เนื้อเพลง
คำแปล

 
I was in the winter of my life, and the men I met along the road were my only summer.

ฉันอยู่ในช่วงที่หนาวเหน็บของชีวิต และชายเหล่านั้นที่ฉันพบบนถนนก็เป็นความอบอุ่นเดียวในชีวิต

At night I
fell asleep with visions of myself, dancing and laughing and crying with them.

ในยามค่ำคืน ฉันนอนลงไปพร้อมกับภาพของตัวเองในขณะที่เต้นรำ และหัวเราะ และร้องไห้ไปกับพวกเขา

Three years down the line of being on an endless
world tour, and my memories of them were the only things that sustained me, and my only real happy times.

สามปีผ่านไปกับการเดินทางค้นหาโลกนี้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด  และความทรงจำเกี่ยวกับพวกเขาคือสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
คือช่วงเวลาเดียวที่ฉันมีความสุขในชีวิตนี้

I was a singer – not a very popular one,

ฉันเคยเป็นนักร้อง—ก็ไม่ได้โด่งดังอะไรนักหรอก

I once had dreams of becoming a beautiful poet, but upon an
unfortunate series of events saw those dreams dashed and divided like a million stars in the night sky that
I wished on over and over again, sparkling and broken.

ฉันเคยมีความฝันจะเป็นนักประพันธ์ที่ประพันธ์กวีออกมาได้อย่างงดงาม แต่เพราะความโชคร้ายในหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างที่ถาโถมเข้ามาในความฝันของฉัน
ทำให้มันถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เหมือนกับดวงดาวบนฟากฟ้าที่ฉันเคยวาดหวังว่าซักวันหนึ่งตัวเองจะเป็นหนึ่งในนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เปล่งประกายและสลายไป…

But I didn’t really mind because I knew that it takes getting everything you ever wanted, and then losing it to know
what true freedom is.

แต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจนักหรอกเพราะรู้ว่ามันจะพรากทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการไป และการสูญเสียนั้นจะทำให้เรารู้ว่าอิสระที่แท้จริงนั้นคืออะไร

When the people I used to know found out what I had been doing, how I’d been living, they asked me why – but there’s
no use in talking to people who have home.

ในยามที่คนที่ฉันเคยรู้จักรู้ว่าฉันไปทำอะไรมา ฉันไปใช้ชีวิตเช่นไรมา พวกเขาถามฉันว่าทำอย่างนั้นทำไม แต่มันไม่มีประโยชน์หรอกที่จะพูดเรื่องเลวร้ายในชีวิตกับพวกที่ไม่ได้บ้านแตกอย่างฉัน

They have no idea what it’s like to seek safety in other people – for home to be wherever you lay your head.

พวกเขาไม่มีทางรู้หรอกว่ามันจะรู้สึกยังไงในยามที่เราเสาะแสวงหาความปลอดภัยในหมู่คนที่เราไม่รู้จัก -บ้านน่ะก็เป็นแค่ที่ที่ไหนก็ได้ที่เราสามารถซุกหัวนอนลงได้

I was always an unusual girl.

ฉันน่ะเป็นสาวน้อยที่ไม่เคยเหมือนใครเสมอ

My mother told me I had a chameleon soul, no moral compass pointing due north, no fixed personality; just an inner
indecisiveness that was as wide and as wavering as the ocean…

แม่บอกว่าฉันมีวิญญาณที่ผันแปรไปตามสถานการณ์เหมือนกิ้งก่าคามิเลียน ไม่มีเข็มทิศทางศีลธรรมที่จะชี้ไปทางเหนือ(เบื้องบน?)ตลอด
ไม่มีบุคลิกที่แน่นอน มีเพียงแค่ความลังเลและไม่กล้าตัดสินใจที่ตื่นกลัวและขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่ไม่นอนเหมือนกับทะเล

And if I said I didn’t plan for it to turn out this way I’d be lying…

และถ้าหากว่าฉันบอกว่าไม่มีทางที่จะหันออกไปจากเส้นทางนี้ นั่นก็หมายความว่าฉันโกหก

Because I was born to be the other woman.
Who belonged to no one, who belonged to everyone.

เพราะฉันเกิดมาเพื่อที่จะเป็นผู้หญิงสามัญทั่วไป
ผู้ที่ไม่มีใครครอบครองเพียงคนเดียว แต่เป็นของทุกคน

Who had nothing, who wanted everything, with a fire for every experience and an obsession for freedom that terrified
me to the point that I couldn’t even talk about it, and pushed me to a nomadic point of madness that both dazzled and dizzied me.

ผู้ไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้วในชีวิต ผู้ที่ทะเยอทะยานอยากจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยแรงปรารถนาสำหรับทุกๆ ประสบการณ์และความหลงไหลในอิสรภาพที่เคยข่มขู่ฉันไม่ให้มีความกล้าแม้แต่จะพูดถึงมัน
และผลักดันฉันให้ร่อนเร่ไปยังความบ้าคลั่งที่ทำให้ฉันทั้งพร่ามัวและเวียนหัวไปหมด…

I’ve been out on that open road
You can be my full time daddy,
White and gold
Singing blues has been getting old
You can be my full time baby,
Hot or cold

ฉันเคยเดินท่องไปยังถนนกว้าง
เธอสามารถอยู่เป็นที่รักของฉันได้ตลอดเวลานะ
แสงสว่างสีขาวและสีทองเรืองรอง
ร้องเพลงบลูส์มันเริ่มเชยไปแล้วล่ะ
เธอจะอยู่เป็นคนรักของฉันตลอดได้เลยนะ
ไม่ว่าจะร้อนหรือจะหนาว

Don’t break me down
I’ve been travelin’ too long
I’ve been trying too hard
With one pretty song

ได้โปรดอย่าทำให้ฉันทุกข์ใจเลยนะที่รัก
ฉันเดินทางมามากเหลือเกิน
ฉันพยายามมามากเหลือเกิน
กับบทเพลงไพเราะบทเดิมนี้นี่แหละ

I hear the birds on the summer breeze,
I drive fast, I am alone in the night
Been tryin’ hard not to get into trouble,
but I, I’ve got a war in my mind
So, I just ride, just ride,
I just ride, just ride

ฉันได้ยินเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วในสายลมแห่งฤดูร้อน
ขับรถแล่นฉิวไป โดดเดี่ยวในความมืดมิด
พยายามที่จะไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน
แต่….แต่ว่า ในความคิดของฉันก็ต่อสู้กันอย่างหนักเหลือเกิน….
เพราะอย่างนั้น ฉันจะขับรถแล่นไปเรื่อยๆ
แล่นไปเรื่อยๆ เท่านั้น….

Dying young and I’m playing hard
That’s the way my father made his life an
art
Drink all day and we talk ’til dark
That’s the way the road dogs do it – ride ’til dark.

ตายตั้งแต่อายุยังน้อย และฉันเองก็พยายามอย่างหนัก
นี่ล่ะคือวิถีที่ทำให้ชีวิตของพ่อฉันเป็นผลงานศิลปะชิ้นเยี่ยม
ดื่มทั้งวัน และพูดคุยกันจนถึงมืดค่ำ
นี่ล่ะคือสิ่งที่พวกหมาข้างถนนทำ ไปเรื่อยๆ จนทางทั้งหมดนั้นมืดสนิท

Don’t leave me now
Don’t say
good bye
Don’t turn around
Leave me high and dry

ได้โปรดอย่าจากฉันไปเลยนะ…
ได้โปรดเถอะ ได้โปรดอย่าบอกลา…..
ได้โปรดอย่าหันหลังหนีฉันไปแบบนี้….
ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไป….

I hear the birds on the summer breeze,
I drive fast, I am alone in the night
Been tryin’ hard not to get into trouble,
but I, I’ve got a war in my mind
I just ride, just ride,
I just ride, just ride

ฉันได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของนกในสายลมแห่งฤดูร้อน
ขับรถแล่นฉิวไปเรื่อยๆ อยู่โดดเดี่ยวในความมืดมิด
พยายามอยู่ตลอดที่จะไม่มีปัญหา
แต่ในสมองของฉัน…ความคิดมันก็เอาแต่ตีกันยุ่งไปหมด
แล่นไปเรื่อยๆ
ไปเรื่อยๆ เท่านั้น…..

I’m tired of feeling like I’m fucking crazy
I’m tired of driving ’til I see stars in my eyes
It’s all I’ve got to keep myself sane, baby
So I just ride, I just ride

ฉันเหนื่อยเหลือเกินกับความรู้สึกว่าตัวเองนั่นเหมือนจะเป็นบ้า
เหนื่อยเหลือเกินกับแล่นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอกับดวงดาว
มันเป็นวิธีที่ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุข ที่รัก
เพราะอย่างนั้น ฉันจึงได้แต่ขับรถแล่นไปเรื่อยๆ แล่นไปเรื่อยๆ….

I hear the birds on the summer breeze,
I drive fast, I am alone in the night
Been tryin’ hard not to get into trouble,
but I, I’ve got a war in my mind
I just ride, just ride,
I just ride, I just ride

ฉันได้ยินเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วในสายลมแห่งฤดูร้อน
ขับรถแล่นฉิวไป โดดเดี่ยวในความมืดมิด
พยายามที่จะไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน
แต่….แต่ว่า ในความคิดของฉันก็ต่อสู้กันอย่างหนักเหลือเกิน….
ฉันจึงขับรถแล่นไปเรื่อยๆ
แล่นไปเรื่อยๆ เท่านั้น….

Every night I used to pray that I’d find my people, and finally I did on the open road.

ทุกๆ คืน ฉันเคยพร่ำอธิษฐานว่าจะได้เจอกับคนของฉัน และในที่สุดฉันก็ได้พบกับพวกเขาบนถนนกว้าง

We had nothing to lose, nothing to gain, nothing we desired anymore, except to make our lives into a work of art.

เราไม่มีอะไรจะเสีย ไม่มีอะไรที่จะได้มา ไม่อะไรที่เราปรารถนา ยกเว้นเสียแต่การที่จะมีชีวิตอยู่อย่างเช่นงานศิลปะล้ำค่า

Live fast. Die young.
Be wild. And have fun.

มีชีวิตที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตายตั้งแต่ยังเด็ก
ใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยง และมีความสุขไปกับมัน

I believe in the country America used to be.
I believe in the person I want to become.
I believe in the freedom of the open road. 

ฉันเชื่อมั่นอยู่เสมอถึงสิ่งที่อเมริกาเคยเป็น
เชื่อมั่นอยู่เสมอในตัวของคนที่ฉันอยากจะเป็นแบบเขา
เชื่อมั่นในอิสรภาพบนท้องถนนที่กว้างใหญ่อยู่เสมอ

And my motto is the same as ever:
"I believe in the kindness of strangers. And when I’m at war with myself I ride, I just ride."

และความคิดของฉันก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
"ฉันเชื่อในความใจดีของคนแปลกหน้า และในยามที่ความคิดในหัวมันเอาแต่ตีกันฉันก็แค่ขับรถแล่นไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ เท่านั้น……."

Who are you?
Are you in touch with all of your darkest fantasies?
Have you created a life for yourself where you can experience them?

เธอเป็นใครกัน?
เธอเคยสัมผัสถึงจินตนาการที่แสนมืดมิดของตัวเองมั้ย??
เธอเคยมีชีวิตของตัวเองเพื่อที่จะได้เรียนรู้มันหรือเปล่า?

I have. I am fucking crazy.
But I am free. 

ฉันเคย….ฉันน่ะโคตรบ้าเลยว่ามั้ย?
แต่ฉันก็เป็นอิสระ…..

vocab

sustain (v.) ทำให้อยู่ต่อไปได้ สนับสนุน
dash (v.) ชน ทำลาย ปะทะอย่างรุนแรง
moral (adj.) ทางศีลธรรม
indecisiveness (n.) การลังเล การไม่กล้าตัดสินใจ
obsession (n.) ความหลงใหล ความหมกมุ่น
nomadic (adj.) ซึ่งร่อนเร่พเนจรไปยังที่ต่างๆ
in touch with (idm.) สัมผัส